• Facebook
• Twitter
• Line

สมองแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย

เทคนิคที่12 : สมองแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย

สมองแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย คือ จุดเชื่อมที่สำคัญมากๆต่อการสร้างความมั่งคั่งร่ำรวย คนที่เป็นเศรษฐีส่วนใหญ่ จะมีสมองแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยเหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไปมาก ก่อนอื่น ถ้าหากทุกๆท่านยังไม่ได้อ่านบทความทั้ง10เรื่องที่ผ่านมา เพื่อความเข้าใจตรงกัน แนะนำให้กลับไปอ่านตั้งแต่ตอนที่1-10ก่อนนะค่ะ จะได้เข้าใจตรงกัน คลิกที่นี่เลยค่ะ =>> อ่านบทความตอนที่1-12

• สมองแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย คือ จุดเชื่อมที่สำคัญมากๆต่อการสร้างความมั่งคั่งร่ำรวย คนที่เป็นเศรษฐีส่วนใหญ่ จะมีสมองแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยเหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไปมาก
• สมองของมนุษย์ทุกคน มีความสามารถในการ รับคลื่นการสั่นสะเทือนของความคิด จากคลื่นความคิดของสมองมนุษย์คนอื่นๆ
• เมื่อ จิตถูกกระตุ้นให้สั่นสะเทือนในอัตราที่สูง จิตจะเพิ่มอัตราการรับสัญญาณ การสั่นสะเทือนของความคิด จากแหล่งภายนอก กระบวนการนี้เกิดจาก อารมณ์ทั้งเชิงบวกหรือเชิงลบ พอเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาการสั่นสะเทือนของความคิดก็จะมากขึ้น
• เมื่อสมองสั่นสะเทือนด้วยอัตราที่เร็ว มันจะ ดึงดูดความคิดและไอเดียที่แผ่จากสมองผู้อื่น และยังให้ ความรู้สึกเดี่ยวกัน(กับเจ้าของความคิดและไอเดียนั้นๆ) ซึ่งความรู้สึกนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นก่อนที่จิตใต้สำนึกจะได้รับสัญญาณความคิดนั้นและนำไปใช้งานได้
• จิตใต้สำนึก เป็น “สถานีส่งของสมอง” ทำหน้าที่กระจายคลื่นการสั่นสะเทือนของความคิด และมี จินตนาการที่สร้างสรรค์ เป็น “เครื่องรับสัญญาณ” ทำหน้าที่รับคลื่นการสั่นสะเทือนของความคิด
• สถานีออกอากาศทางจิตของเราประกอบไปด้วย 3องค์ประกอบหลักๆ
  • 1)จิตใต้สำนึก
  • 2)จินตนาการที่สร้างสรรค์
  • 3)การชักจูงตัวเอง(Self Talk หรือ Auto-Suggestion)
• สิ่งกระตุ้นให้ สถานีออกอากาศทางจิตทำงาน ก็คือ ความปรารถนาอย่างแรงกล้า(ใส่สิ่งนั้นจริงๆ)
• ทั้งหมดที่กล่าวมาล้วนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของ การใช้สมองเพื่อสร้างความมั่งคั่งร่ำรวย ผ่านสถานีออกอากาศทางจิตของเราเอง

เป็นไงกันบ้างคะ ชื่นชอบบทความนี้หรือเปล่า ถ้าชื่นชอบ/อยากติดตามความรู้ดีๆนี้อย่างต่อเนื่อง สามารถกดติดตามได้ที่เพจข้างล่างได้เลยค่ะ

เพจหนังสือเพื่อความมั่งคั่ง

===============================

ก่อนจะจบบทความนี้ Admin มีเรื่องเล่าที่สำคัญเกี่ยวกับ สมองแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย  มาแบ่งปันกับทุกๆท่านค่ะ

จริงๆแล้ว หลักการของ สมองแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย นี้ มันสอดคล้องกับการใช้ชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างยิ่ง ตรงที่ “เราทุกคนต่างก็มีสมองแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยอยู่แล้ว”

หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมแอดมินพูดแบบนี้?

คำตอบง่ายๆ คือ เรามีสมองแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยกันทุกคน แต่กลับไม่เข้าใจกระบวนการในการสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยผ่านกระบวนการต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น

• เราใช้พลังของสมองแห่งความมั่งคั่งน้อยมาก เพราะยังคงยึดมั่นในกรอบความคิดเดิมๆด้วยการทำงานที่เดิมๆ
• พลังของสมองแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย จะถูกขับออกมาผ่านกระบวนการที่สำคัญทั้ง3องค์ประกอบ
• พลังของสมองแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย จะต้องมีอารมณ์ความรู้สึกร่วมด้วยเสมอถึงจะเกิดพลัง

จากรายการด้านบน จะเห็นว่า ทุกๆสิ่งที่เรากระทำ ล้วนมีผลต่อผลลัพธ์ด้านความมั่งคั่งร่ำรวยของเรารวมอยู่ด้วยเสมอ แน่นอนว่า ในชีวิตประจำวันของเรา “ถ้าเราไม่ใช้สมองแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย สมองในส่วนนี้ก็จะไม่สามารถสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยให้กับเราได้ หรือ เรียกได้ว่า สมองแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยก็จะฝ่อลงเรื่อยๆ” นั่นเอง

วิธีการง่ายๆ(จากเนื้อหาที่ได้เรียนรู้มา)ในการใช้สมองสร้างความมั่งคั่งร่ำรวย ก็ทำได้ด้วยการ ใช้องค์ประกอบทั้ง3ข้อที่ได้เรียนรู้มา นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น

1)จิตใต้สำนึก => จิตใต้สำนึกคือสถานีส่งของสมอง คลื่นความถี่ของความคิดของเศรษฐีจะมีระดับเดียวกันทั่วทั้งจักรวาล นั่นหมายความว่า เศรษฐี , มหาเศรษฐี ส่งคลื่นความถี่นี้เข้าสู่จักรวาลแห่งความมั่งคั่งอยู่แล้ว เพียงแต่คนจน/ชนชั้นกลาง ไม่สามารถเชื่อมต่อกับคลื่นความถี่ของความคิดเหล่านี้ได้ นั่นเป็นเพราะ ยังใช้งานพลังของจิตใต้สำนึกหรือสมองแห่งความมั่งคั่งไม่ได้อย่างเต็มที่ อย่างที่ได้เรียนรู้กันไปแล้วว่า สมองแห่งความมั่งคั่งมีคลื่นการสั่นสะเทือน ซึ่งคลื่นการสั่นสะเทือนนี้จะต้องมีอัตราที่เร็วเท่าๆกันถึงจะรับ-ส่งคลื่นความถีได้นั่นเอง ในประเด็นนี้ ทุกท่านควรกลับไปเรียนรู้หัวเกี่ยวกับ พลังของจิตใต้สำนึกแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย ในบทความที่ผ่านมากันอีกครั้ง และตกผลึกความคิดนั้นให้ชัดเจนว่า อะไรกันแน่คือสิ่งที่เราปรารถนาอย่างแท้จริง เพราะอย่างที่ได้เรียนรู้กันไปแล้วว่า เราจะได้ในสิ่งที่เราปรารถนาอย่างแน่นอนถ้าเรารู้อย่างชัดเจนว่า สิ่งนั้นคืออะไร?

2)จินตนาการที่สร้างสรรค์ => จินตนาการที่สร้างสรรค์ เป็น “เครื่องรับสัญญาณ” ทำหน้าที่รับคลื่นการสั่นสะเทือนของความคิดที่ส่งมาจากจิตใต้สำนึก(ทั้งของตัวเราเองหรือของคนอื่นในคลื่นความถี่เดียวกัน) เมื่อจินตนาการที่สร้างสรรค์ทำงาน มันจะเชื่อมต่อกับ จิตใต้สำนึกแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยซึ่งเป็นสถานีส่งสัญญาณ นั่นหมายความว่า ในจักรวาลแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยนี้ มีการรับสัญญาณและการส่งสัญญาณระหว่างกันไปมาอย่างต่อเนื่องและตลอดไป จิตใต้สำนึกเป็นสถานีส่งสัญญาณ แล้ว จินตนาการสร้างสรรค์เป็นสถานีรับสัญญาณ เทียบง่ายๆให้เข้าใจ คือ เวลาที่เราฟังวิทยุคลื่นอะไรก็ตาม จะมีสัญญาณคลื่นวิทยุจากผู้ส่ง และเราใช้เครื่องเล่นสัญญาณวิทยุเป็นตัวรับคลื่นสัญญาณวิทยุ นั่นเอง ซึ่งเครื่องเล่นสัญญาณวิทยุ ก็จะเป็น วิทยุทั่วไป หรือ วิทยุในรถยนต์ ฯลฯ เมื่อปรับจูนคลื่นให้ตรงกัน ก็จะเป็นการเชื่อมต่อสลับกันไปมาอย่างชัดเจน นั่นเอง

หลักในการใช้สมองแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย ก็ทำงาน รับ-ส่ง หรือ ส่ง-รับ สัญญาณคลื่นความคิดแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยกันอย่างนี้ตลอด24ชั่วโมง ซึ่งข้อแตกต่างระหว่างคนจน/ชนชั้นกลาง กับเศรษฐี หรือ มหาเศรษฐี อยู่ตรงที่ คลื่นการสั่นสะเทือนของความคิดแตกต่างกัน นั่นเอง

3)การชักจูงตัวเอง(Self Talk หรือ Auto-Suggestion) => การชักจูงตัวเอง/การพูดกับตัวเอง/การตอกย้ำสิ่งที่ปรารถนาอย่างแท้จริงกับตัวเอง เป็นกระบวนการเชื่อม จิตใต้สำนึก กับ จินตนาการที่สร้างสรรค์ให้ออกมาเป็นรูปธรรม ทุกๆครั้งที่เรา Self Talk แบบใส่อารมณ์ความรู้สึกลงไปอย่างเต็มที่ เราจะสามารถรับรู้ได้ว่า กระบวนการเชื่อมต่อคลื่นสมองแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยมันจะชัดเจนข้างใน สิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญที่สุดของกระบวนการทั้ง3องค์ประกอบคือ อารมณ์แห่งความปรารถนาอย่างแท้จริง เมื่อมันเป็นความต้องการอย่างแท้จริง มันจะมีพลังในการสั่นสะเทือนมากๆในคลื่นสมองแห่งความมั่งคั่งของเราที่เราส่งออกไป การเชื่อมต่อกับทั้ง3องค์ประกอบก็จะรวดเร็วและทรงพลังมากๆ

สมองแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย คือ สมองที่ส่งคลื่นการสั่นสะเทือนที่รุนแรง ความรุนแรงของคลื่นสมองจะทรงพลังมากๆต่อการสร้างความมั่งคั่ง ในขณะที่ทำกระบวนการทั้ง3 เริ่มตั้งแต่ การเชื่อมจิตใต้สำนึก การจินตนาการที่สร้างสรรค์ และ การชักจูงตัวเอง ให้ใส่ อารมณ์ความรู้สึกว่าได้รับสิ่งนั้นเรียบร้อยแล้ว ร่วมด้วยเสมอ เพื่อให้คลื่นสั่นสะเทือนของความคิดหรือสมองนี้มีความรุนแรง หรือ อยู่ใน คลื่นความถี่เดียวกันกับคลื่นสมองแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยของเศรษฐี

นั่นหมายความว่า กระบวนการที่สำคัญ จึงต้องมีสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ ความปรารถนาอย่างแรงกล้า+อารมณ์ความรู้สึกร่วมที่รุนแรง ยิ่งมีอารมณ์ร่วมอย่างรุนแรง ยิ่งทรงพลังในการสร้างความมั่งคั่งร่ำรวย

เมื่อคนเรามีความปรารถนาอย่างแรงกล้าและมีอารมณ์ความรู้สึกร่วมที่รุนแรง จะมีคลื่นการสั่นสะเทือนสูงกว่าคนทั่วๆไปในการสร้างความมั่งคั่งร่ำรวย เมื่อเชื่อมต่อกระบวนการทั้ง3เข้าด้วยกันจะช่วยเร่งความสำเร็จได้อย่างเต็มที่ เพราะจริงแล้ว ความคิด คือ ความจริง(ของคนๆนั้น) ไม่ว่าเราจะเชื่อว่าเราทำได้ หรือ เราทำไม่ได้ มันก็คือความจริงของคนๆนั้นอย่างแน่นอน อย่างที่เฮนรี่ฟอร์ดได้กล่าววาจาศักดิ์สิทธิ์ไว้ว่า “ไม่ว่าคุณจะเชื่อว่าทำได้ หรือ ทำไม่ได้ มันก็ถูกต้องสำหรับคุณ” นั่นเองค่ะ

ก่อนจะทิ้งท้ายจริงๆ แอดมินอยากจะบอกถึงกระบวนการที่แอดมินทำเกี่ยวกับขั้นตอนในการสร้างความมั่งคั่งร่ำรวย

ขั้นที่1 : หามุมสงบๆสำหรับตัวเราเอง ถ้ามีกระจกด้วยจะดีมากๆเลยค่ะ ถ้าไม่มีก็อาจจะใช้มือถือถ่ายวิดีโอตัวเองไปด้วยได้

ขั้นที่2 : พูดกับตัวเอง(Self Talk)เกี่ยวกับความปรารถนาที่แรงกล้าอย่างชัดเจนของตัวเองว่า อะไรกันแน่ที่ตัวเราต้องการจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิตแบบไหนที่ต้องการจริงๆ ที่ทำงานแบบไหนที่ต้องการจริงๆ บ้านแบบไหนที่ต้องการจะอยู่จริงๆ สายสัมพันธ์แบบไหนที่ต้องการใช้ชีวิตร่วมด้วยจริงๆ ….. ให้ประกาศมันออกมาให้ชัดเจน ในขั้นนี้ เป็นขั้นของการเชื่อมองค์ประกอบด้าน จิตใต้สำนึก+จินตนาการที่สร้างสรรค์+การชักจูงตัวเอง เข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการ รับ-ส่งคลื่นความคิดที่สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

ขั้นที่3 : ใส่อารมณ์ความรู้สึกร่วมว่า เราทำได้และเราได้รับมันมาแล้ว และช่างมีความสุขเหลือเกิน ในขั้นนี้ เป็นขั้นตอนที่เราจะยิ้มและรู้สึกดีกับตัวเองอย่างถึงที่สุด คลื่นความรู้สึกดีๆที่เราได้รับสิ่งนั้นมาแล้ว จะถูกส่งตรงลงไปสู่จิตใต้สำนึกของเราเองแบบเต็มที่ ซึ่งทุกท่านได้เรียนรู้มาแล้วว่า พลังของจิตใต้สำนึกแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยนั้น ทรงพลังแค่ไหน

ขั้นที่4 : เขียนแผนการปฏิบัติหรือเอาแผนการออกมาทบทวน(ถ้าเคยเขียนไว้แล้ว)

ขั้นที่5 : ลงมือทำตามแผนการนั้นทันที เร่ิมต้นจาก สิ่งที่ทำได้ทันที ณ ตอนนั้น

เพียง5ขั้นตอนนี้ ท่านก็เริ่มเข้าสู่กระบวนที่สำคัญในการสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยแล้วค่ะ

===============================

แน่นอนว่า บทสรุปเทคนิคทั้งหมดที่เรียนรู้มานี้ จะช่วยให้ทุกๆท่านสามารถสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยและมีความสุขในการใช้ชีวิตในทุกๆวันนะค่ะ

ห่วงใยทุกๆสรรพสิ่งบนโลกใบนี้เสมอ…

• Facebook
• Twitter
• Line